มาดูกันว่าการที่นายจ้างแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานของลูกจ้าง นายจ้างจะต้องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งเดิมโดยให้ถอดถอนลูกจ้างออกจากตำแหน่งเดิมก่อนหรือไม่ ? เรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ลูกจ้างได้รับการแต่งตั้งให้ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นแต่ตำแหน่งใหม่ดังกล่าวทำให้ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับตำแหน่งเดิม ลูกจ้างจึงได้ฟ้องนายจ้างต่อศาลแรงงานกลางเพื่อขอให้นายจ้างจ่ายเงินเพิ่มพิเศษดังกล่าวให้แก่ตน คุณคิดว่าอย่างไร ?
รายละเอียดของคดีนี้มีอยู่ว่า โจทก์ยื่นฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นองค์การของรัฐ ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันการบิน พลเรือน พ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงค์ในการจัดดำเนินการผลิตบุคลากรทางด้านการบิน ฯลฯ มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ว่าการทำหน้าที่บริหารกิจการของจำเลยที่ 1 โจทก์เข้าเป็นพนักงานลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เมื่อปี 2535 ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2537 จำเลยที่ 1 มีคำสั่งบรรจุและแต่งตั้งโจทก์ในตำแหน่งครูการบิน 2 รักษาการหัวหน้าแผนกการฝึกบินขั้นพื้นฐานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2537 และวันที่ 4 เมษายน 2540 จำเลยที่ 1 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้โจทก์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบินตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2540 เป็นต้นไป เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2539 กระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือที่ กค 0203/11137 ลงวันที่ 23 กันยายน 2539 ถึงกระทรวงการคลังแจ้งว่าจำเลยที่ 1 ขอจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับสายงานวิชาชีพที่ขาดแคลน ซึ่งคณะกรรมการของจำเลยที่ 1 และกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นชอบแล้ว ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณา กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วมีหนังสือที่ กค 0529.4/17158 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2540 อนุมัติให้จำเลยที่ 1 จ่ายเงินเพิ่มพิเศษสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนสำหรับพนักงาน ผู้ดำรงตำแหน่งไม่เกินผู้อำนวยการฝ่าย โดยให้คณะกรรมการของจำเลยที่ 1 เป็นผู้พิจารณาจากผู้ดำรงตำแหน่งนักบินครูการบิน ฯลฯ และกำหนดให้ตำแหน่งนักบิน ครูการบิน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในท่าอากาศยาน (ทำหน้าที่บังคับอากาศยาน) ได้รับเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานคนละ ไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน ต่อมาวันที่ 21 มีนาคม 2543 จำเลยที่ 1 ได้มีคำสั่งที่ 034/2543 ให้จ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานหรือเงินเพิ่มพิเศษสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลน(เพิ่มเติม) เดือนละ 10,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2538 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2540 รวมเป็นเงิน 180,000 บาท ให้โจทก์ และวันที่ 24 ตุลาคม 2543 จำเลยที่ 2 ได้มีคำสั่งที่ 172/2543 ให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ครูการบินอีกหน้าที่หนึ่งตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2543 เป็นต้นไป โจทก์ได้รับเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2538 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2540 แล้ว แต่หลังจากนั้นจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2543 จำเลยทั้งสองไม่จ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานเดือนละ 10,000 บาท ให้โจทก์ ทั้ง ๆ ที่จำเลย ทั้งสองไม่เคยมีคำสั่งถอดถอนตำแหน่งครูการบินที่โจทก์ทำหน้าที่อยู่ โจทก์จึงทำบันทึกที่ สบพ. 502/730 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2544 ขอให้จำเลยทั้งสองจ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2540 ถึงวันที่ 30 กันายน 23543 รวม 42 เดือนให้โจทก์ ก่อนที่โจทก์จะทำบันทึกดังกล่าวจำเลยที่ 1 ได้มีหนังสือที่ สบพ 130(2)/112 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2544 ถึงกระทรวงการคลัง ขอให้พิจารณาทบทวนการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษและเงินเพิ่มพิเศษสาขาวิชาชีพสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนให้แก่พนักงานเป็นรายกรณีจำนวน 6 คน รวมทั้งโจทก์ และกระทรวงการคลังได้มีหนังสือ กค 0209.2/3322 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545 ถึงจำเลยที่ 2 แจ้งว่าโจทก์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบินซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงกว่าระดับผู้อำนวยการฝ่าย จึงไม่อยู่ในข่ายมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยาน โดยหนังสือดังกล่าว ตอนท้ายระบุว่า มติคณะรัฐมนตรีซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 30ตุลาคม 2544 ที่กำหนดให้ผู้มีสิทธิได้รับการพิจารณาให้ได้รับเงินเพิ่มพิเศษจะต้องเป็นผู้ที่เคยได้รับเงินเพิ่มพิเศษอยู่เดิมก่อนที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ระงับการจ่าย โจทก์เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษอยู่เดิมก่อนที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ระงับการจ่าย โจทก์เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษอยู่ก่อนวันที่ 30 ตุลาคม 2544 จึงไม่อยู่ในข่ายถูกตัดสิทธิให้ระงับการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จำเลยทั้งสองจึงต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานเดือนละ 10,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2540 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2543 รวม 42 เดือน เป็นเงิน 420,000 บาท ให้โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 27 มีนาคม 2540 เฉพาะดอกเบี้ยถึงวันฟ้องคิดเป็นเงิน 250,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันจ่ายเงิน 670,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงิน420,000 นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า กระทรวงการคลังอนุมัติให้จำเลยที่ 1 จ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนได้เฉพาะพนักงานผู้ดำรงตำแหน่งไม่เกินผู้อำนวยการฝ่าย โจทก์ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบิน (ตำแหน่งเทียบเท่าผู้ช่วยผู้ว่าการ) ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงกว่าระดับผู้อำนวยการฝ่ายตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ จึงไม่อยู่ในข่ายมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยาน จำเลยทั้งสองไม่สามารถจ่ายเงินดังกล่าวให้โจทก์ต่อไปได้ ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ โจทก์ส่งเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือน ครั้งที่ ๗/๒๕๓๙ เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๙ กับหนังสือของกระทรวงคมนาคมที่ คค ๐๒๐๓/๑๑๑๓๗ ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๓๙ จำเลยส่งเอกสารสรุปข้อเท็จจริงและประเด็นต่อสู้คดีพร้อมเอกสารแนบท้าย ๑ ชุด และโจทก์จำเลยต่างแถลงรับว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่มีอยู่จริงและถูกต้อง ศาลแรงงานกลางเห็นว่าคดีพอวินิจฉัย จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานของจำเลยที่ ๑ ในตำแหน่งครูการบิน ๒ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๗ ต่อมาโจทก์ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบินตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ ขณะที่โจทก์ทำงานกับจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ได้ขอให้กระทรวงคมนาคมหารือกระทรวงการคลังพิจารณาให้ความเห็นชอบการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับวิชาชีพที่ขาดแคลน กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วอนุมัติให้จำเลยที่ ๑ จ่ายเงินเพิ่มพิเศษและเงินเพิ่มสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลน สำหรับพนักงานผู้ดำรงตำแหน่งไม่เกินผู้อำนวยการฝ่าย โดยตำแหน่งครูการบินซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในอากาศยาน (ทำหน้าที่บังคับอากาศยาน) ให้ได้รับเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานคนละไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๘ เป็นต้นไป ตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ กค ๐๕๒๙.๔/๑๗๑๕๘ ลงวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๐ ต่อมาจำเลยที่ ๑ ได้มีคำสั่งสถาบันการบินพลเรือนที่ ๐๓๔/๒๕๔๓ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๔๓ อ้างถึงหนังสือกระทรวงการคลังฉบับดังกล่าว และหนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค ๐๕๒๙ง๒/๒๒๖๑๙ ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๐ กับมติคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือนในการประชุมครั้งนี้ ๘/๒๕๔๒ ให้จ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานให้แก่โจทก์ในตำแหน่งครูการบิน อัตราเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๘ ถึงวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบินเป็นต้นมา จำเลยที่ ๑ ไม่จ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานให้โจทก์ ทั้ง ๆที่โจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ครูการบิน ปฏิบัติหน้าที่ในอากาศยาน (ทำหน้าที่บังคับอากาศยาน) ตลอดมา ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบินเป็นตำแหน่งเทียบเท่าผู้ช่วยผู้ว่าการและเป็นตำแหน่งที่สูงกว่าระดับผู้อำนวยการฝ่าย
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า คำสั่งสถาบันการบินพลเรือนที่ ๐๓๔/๒๕๔๓ ซึ่งโจทก์อ้างเป็นฐานแห่งสิทธิเรียกร้องเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานระบุถึงการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานไว้เฉพาะตำแหน่งครูการบิน มิได้ระบุให้จ่ายในตำแหน่งอื่นด้วย เมื่อโจทก์ซึ่งดำรงตำแหน่งครูการบินได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบินตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ โจทก์จึงพ้นจากตำแหน่งครูการบิน สิทธิที่จะได้รับเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานของโจทก์ย่อมสิ้นสุดไปตามตำแหน่ง แม้โจทก์จะได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ครูการบินแต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งครูการบิน และหนังสือของกระทรวงการคลังที่ กค ๐๕๒๙.๔/๑๗๑๕๘ ซึ่งจำเลยที่ ๑ อ้างเป็นเหตุสั่งให้จ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานให้แก่โจทก์ก็อนุมัติให้จำเลยที่ ๑ จ่ายเงินเพิ่มพิเศษและเงินเพิ่มสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนสำหรับพนักงานผู้ดำรงตำแหน่งที่สูงกว่ากว่าผู้อำนวยการฝ่าย โจทก์จึงไม่ใช่บุคคลที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้จำเลยที่ ๑ จ่ายเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยาน โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ประเด็นที่น่าสนใจคือ โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยที่ ๑ มีคำสั่งแต่งตั้งโจทก์ให้โจทก์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบินโดยมิได้มีคำสั่งถอดถอนตำแหน่งครูการบิน ต้องถือว่าโจทก์ยังดำรงตำแหน่งครูการบินอยู่ด้วย สิทธิที่จะได้รับเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานของโจทก์ จึงยังไม่สิ้นสุด เห็นว่า กระทรวงการคลังอนุมัติให้จำเลยที่ ๑ จ่ายเงินเพิ่มพิเศษและเงินเพิ่มสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนให้แก่พนักงานเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งไม่เกินผู้อำนวยการฝ่าย เมื่อโจทก์ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบินซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงกว่าระดับ ผู้อำนวยการฝ่ายแล้วตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ โจทก์จึงไม่ใช่พนักงานผู้ดำรงตำแหน่งไม่เกินผู้อำนวยการฝ่ายตั้งแต่วันดังกล่าว ไม่ว่าจำเลยที่ ๑ จะได้มีคำสั่งถอดถอนตำแหน่งครูการบินที่โจทก์ดำรงอยู่ก่อนหรือไม่ สิทธิที่จะได้รับเงินเพิ่มพิเศษผู้บังคับอากาศยานของโจทก์จึงสิ้นสุดตั้งแต่วันที่โจทก์ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบิน ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2548)
เชิญอ่าน "เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแรงงาน"ที่ http://earlyretire.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น